วันเสาร์ที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

บุหรี่นอกฟ้องไทย

สวัสดี ท่านสมาชิกสภาประชาชนผู้ทรงเกียรติ

สมาชิก "ศ.นพ.ประกิต วาทีสาธกกิจ" เลขาธิการมูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ ยกมือขออภิปรายภึงกรณีที่บุหรี่นอกยื่นฟ้องรัฐบาลไทย

เรียน ท่านประธานท้วมที่เคารพ
วันนี้ผมขอยกมืออภิปรายเรื่องที่ประเทศไทย ตกเป็นจำเลยของบริษัทบุหรี่นอกอีกครั้งหนึ่ง

โดยบริษัท ฟิลิปมอริสฯ เจ้าของบุหรี่ยี่ห้อมาร์ลโบโร และแอลแอนด์เอ็ม บุหรี่นอกที่ขายที่ที่สุดในประเทศไทย วิ่งเต้นให้รัฐบาลฟิิลิปปินส์ยื่นคำฟ้องต่อดับเบิลยูทีโอ หรือองค์การการค้าโลก ว่ารัฐบาลไทยประเมินภาษีบุหรี่ของเขาเกินความจริง ทำให้สินค้าของเขาเสียเปรียบบุหรี่โรงงานยาสูบไทย

โดยคำร้องเรียกร้องให้ดับเบิลยูทีโอ ตัดสินให้ประเทศไทยยุติการเก็บภาษีเกินจริง

เรื่องนี้คาราคาซังมาหลายปีแล้ว โดยก่อนหน้านี้กระทรวงการคลังมีความเห็นว่า บริษัท ฟิลิปมอริสฯ แจ้งราคานำเข้าบุหรี่ต่ำกว่าความเป็นจริงเพื่อให้เสียภาษีน้อยลง ดีเอสไอหรือหน่วยงานสือสวยพิเศษพยายามที่จะสืบหาข้อมูลเพื่อยืนยันราคาน้ำเข้าที่แท้จริง แต่ไม่ประสบผลสำเร็จเนื่องจากบริษัทฟิลิปมอริสฯ ปกปิดข้อมูล แม้ทีมสืบสวนจะไปหาข้อมูลถึงมะนิลา และจาการ์ตา ก็ไม่ได้ข้อมูลกลับมา

กระทรวงการคลังจึงตัดสินใจกำหนดราคานำ้เข้าที่สูงขึ้น จากที่ฟิลิปมอริสแจ้งเพือประเมินภาษีบุหรี่มาร์ลโบโล จากซองละเจ็ดบาท เป็นแปดบาท ซึ่งทำให้ประเมินภาษีได้เพิ่มขึ้น และฟิลิปมอริสโต้แย้งว่าทำให้บริษัทของเขาต้องเีสียภาษีเพิ่มขึ้น ราคาขายปลีกเพิ่มขึ้นทำให้แข่งขันกับบุหรี่ไทยได้น้อยลง

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่บริษัท ฟิลิปมอริสฯ ฟ้องรัฐบาลไทยต่อดับเบิลยูทีโอ

เมื่ือ พ.ศ. 2532 บริษัทธ ฟิลิปมอริสฯ ร่วมกับบริษัทบุหรี่ข้ามชาติสัญชาติอเมริกาอีกสองบริษัท คือ อาร์เจโรย์โนล และบราวแอนด์ วิลเลียมสัน เรียกร้องให้รัฐบาลสหรัฐอเมริกาฟ้องดับเบิลยูทีโอ ให้ตัดสินบังคับให้ประเทศไทยเปิดตลาดบุหรี่จนเป็นผลสำเร็จมาแล้ว

และเมื่อเปิดตลาดบุหรี่ไทยได้แล้ว ยังพยายามกดดันให้รัฐบาลยกเลิกกฎหมายห้ามสินค้าบุหรี่สนับสนุนการกีฬาด้วย พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ออกมาคัดค้านเขาจึงทำไม่สำเร็จ

ครั้งนี้บริษัท ฟิลิปมอริสฯ ฟ้องร้องผ่านรัฐบาลฟิลิปปินส์ ที่เขาตั้งโรงงานอยู่ เพราะบริษัท ฟิลิปมอริสฯ เองไม่มีสิทธิ์ฟ้อง

และตอนนี้เขาจะใช้รัฐบาลอเมริกาเพื่อกดดันประเทศไม่ได้แล้ว เพราะบริษัท ฟิลิปมอริสฯ ได้แยกธุรกิจที่ทำภายในอเมริกา กับภายนอกประเทศ เป็นคนละนิติบุคคลกัน

ผู้ที่ฟ้องรัฐบาลไทย เป็นบริษัท ฟิลิปมอริส อินเตอร์เนชั่นแนล ทีีมีฐานอยู่ที่เมืองโลซาน สวิตเซอร์แลนด์ ไม่เกี่ยวกับรัฐบาลอเมริกา

เหตุที่เขาแยกบริษัทที่ทำกาค้าบุหรี่ นอกประเทศอเมริกา ออกเป็นบริษัทต่างหาก ก็เพื่อที่การปฏิบัติการค้าบุหรี่นอกอเมริกา ไม่ต้องอยู่ภายใต้กฎหมายควบคุมยาสูบ ของสหรัฐอเมริกา ที่เข้มงวดขึ้นเรื่อย ๆ

แต่ข่าววงในจากกระทรวงการคลัง ให้บริษัท ฟิลิปมอริสฯ กดดันกระทรวงการลังอย่างต่อเนื่องในเรื่องนี้ เพื่อให้ไทยยอมตามคำเรียกร้องของเขา

ในฐานะที่ผมเคยอยู่ในทีมผู้แทนไทยที่เจรจากับบริษัทบุหรี่นอก ที่กดดันให้เป็นตลาดบุหรี่มาก่อนเจรจากับสำนักผู้แทนการค้าสหรัฐอเมริกา ทั้งที่วอชิงต้น และที่อับเบิลยูทีโอ ที่เจนีวา

อยากให้โรงงานยาสูบไทยได้อ่านคำฟ้องร้องของเขา ที่กล่าวหาว่ารัฐบาลไทยมีผลประโยชน์ทับซ้อนกับโรงงานยาสูบ รัฐบาลไทยเลือกปฏิบัติต่อบุหรี่ต่างประเทศ และให้คุณต่อโรงงานยาสูบไทย

โรงงานยาสูบจึงต้องไม่ไปร่วมมือกับบริษัทนี้ ในการคัดค้านข้อเสนอการควบคุมยาสูบของกระทรวงสาธารณะสุข ดังที่เคยทำมาแล้วหลายครั้งในอดีต เพราะยิ่งไปร่วมมือกับเขามากเท่าไหร่ โรงงานยาสูบเองจะเสียส่วนแบ่งตลาดมากขึ้นเท่านั้น

และเหตุที่เขาฟ้องร้องเราก็เพราะต้องการสินค้าบุหรี่ของเขาแย่งส่วนแบ่งตลาดไทยให้ได้มากขึ้นจาก 20% ที่เป็นอยู่ในขณะนี้

ผมขอเป็นกำลังใจแก่เพื่อนข้าราชการกระทรวงการคลัง ในการต่อสู้คดีเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของประเทศไทยให้เต็มความสามารถ

ไม่ต้องไปกลัวบริษัทที่มีส่วนแบ่งตลาดสูงสุดในโลก

เพราะส่วนแบ่งตลาดที่มากที่สุดในโลก ย่อมหมายความว่าสินค้าของเขาเป็นฆาตกรฆ่าคนตายมากที่สุดในโลกด้วยเช่นกัน

เราจึงไม่ต้องไปกลัวเขา

ขอบคุณคุณหมประกิต ที่ช่วยนำเรื่องนี้มาบอกกล่าวเพื่อนสมาชิก เห้นหรือยังว่าบุหรี่นอกมันร้ายกาจขนาดไหน

ที่มา หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ วันที่ 14 พฤศจิกายน 2551